10 กลยุทธการตลาดที่คุณหมอต้องรู้ ก่อนเปิดคลีนิค
[ ต อ น ที่ 1 ]


กลยุทธ์การหาข้อมูลทางการตลาด ก่อนลงทุน ไม่ว่าธุรกิจอะไร ควรทำวิจัยข้อมูลทางการตลาดก่อน การเปิดคลินิกก็เช่นกัน คุณหมอควรทำวิจัยข้อมูลด้วยตัวเองอย่างละเอียด ดังนี้
-
ที่ตั้งของคลินิก อยู่ใกล้แหล่งชุมชนหรือแหล่งเศรษฐกิจหรือไม่ การเดินทางสะดวกมากน้อยแค่ไหน
-
กลุ่มประชากร ผู้คนที่อยู่โดยรอบเป็นกลุ่มไหน เช่น กลุ่มพนักงานบริษัท กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า กลุ่มคนชั้นกลาง กลุ่มไฮเอนด์
-
สภาพเศรษฐกิจโดยรอบ
-
คู่แข่งทางการตลาด มีคลินิกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางประเภทเดียวกันมากน้อยแค่ไหน (รวมทั้งโรงพยาบาลในเขตใกล้เคียง ทั้งภาครัฐและเอกชน) เวลาทำการของคลินิกคู่แข่ง จำนวนผู้มารับบริการของคลินิกคู่แข่งฯลฯ
-
-
ช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายนิยมมาใช้บริการ
-
ระดับราคาที่กลุ่มเป้าหมายพอใจ รวมทั้งความต้องการของผู้มาใช้บริการในพื้นที่
ข้อมูลเหล่านี้จะบอกได้ว่า ควรเปิดคลินิกในพื้นที่นั้นหรือไม่ ควรตั้งราคาอย่างไรจึงจะเหมาะสม ควรเปิดทำการในเวลาใด หรือตัวคลินิกมีศักยภาพสูงพอที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่หากคุณหมอมั่นใจว่ามีชื่อเสียงและความศรัทธาจากตัวคนไข้มากพอก็อาจข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ เพราะต้องยอมรับว่า ในวงการนี้ชื่อเสียงของคุณหมอที่คนไข้ให้ความไว้วางใจยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ


กลยุทธ์การสร้างตลาด และการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการสร้างการรับรู้ ช่วงที่กำลังก่อสร้างหรือตกแต่งคลินิกถือเป็นช่วง “นาทีทอง”สำหรับการประชาสัมพันธ์คลินิก ไม่ต้องรอให้คลินิกตกแต่งเสร็จพร้อมให้บริการ ก็สามารถขึ้นป้ายบอกกล่าวล่วงหน้าได้เลยว่า คุณหมอชื่อ...จากโรงพยาบาล... กำลังจะมาเปิดคลินิกเฉพาะทาง (หรือคลินิกทั่วไป ) ตั้งแต่วันที่... เวลาทำการ... (และรายละเอียดอื่นๆ ที่จำเป็น) จะทำให้ผู้คนในบริเวณนั้นทราบล่วงหน้าว่า มีคลินิกใหม่กำลังจะเปิดให้บริการ
เมื่อคลินิกพร้อมเปิดให้บริการ สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ในคลินิก เช่น ใบปลิวนามบัตรใบนัดพบแพทย์ ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ควรออกแบบให้พกพาสะดวก อาจมีเอกสารความรู้ด้านสุขภาพวางแจกในคลินิกด้วย (สามารถขอสนับสนุนจากบริษัทยาได้) เพื่อความสร้างความจดจำที่ดีกับผู้มารับบริการ
นอกจากนี้ ตัวคุณหมอเองควรมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในท้องถิ่นบ้าง เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ของหมู่บ้าน งานบุญหรืองานเทศกาลประจำปีในชุมชน โดยอาจจัดกิจกรรมเล็กๆ ที่ใช้งบไม่สูงมากในงาน อย่างการออกบูธตรวจสุขภาพ เพื่อโปรโมทคุณหมอและคลินิกไปในตัว ลองติดต่อขอเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้จัดงานได้เลย
กลยุทธ์ด้านราคา กลยุทธ์ด้านราคาอาจไม่ใช่หัวใจหลักของการทำการตลาดสำหรับคลินิกก็จริง แต่ตราบใดที่คนไทยยังนิยมการ ลด-แลก-แจก-แถม กลยุทธ์นี้ก็ใช้กับคลินิกเปิดใหม่ได้เช่นกัน ไม่ใช่เพื่อล่อใจให้คนไข้กลับมารับบริการอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อสร้างความจดจำและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคลินิกกับคนไข้
จากการสำรวจข้อมูลการตลาดในกลยุทธ์ข้อ 1 คุณหมอคงพอประเมินคร่าวๆ ได้แล้วว่าราคาของคู่แข่งอยู่ในระดับใด การใช้กลยุทธ์ลดราคา ไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสูงๆและทำส่วนลดให้เห็นเหมือนธุรกิจอื่นๆ แต่ใช้วิธีการ “ลด” อย่างแยบยล โดยตั้งราคาถูกกว่าคู่แข่งเล็กน้อย หรือทำบัตรสมาชิกเพื่อรับสวนลดสำหรับผู้ใช้บริการแทน ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการลดราคาเป็นครั้งๆ
ส่วนกลยุทธ์ในการ “แถม” ของคลินิกไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของก็ได้ อาจจัดมุมเล็กๆ สำหรับการชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัด BMI หรือการตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องอัตโนมัติ ฟรีสำหรับทุกคนที่เข้ามาในคลินิก พร้อมวางแผ่นพับเล็กๆ สำหรับใช้บันทึกข้อมูลสุขภาพเหล่านี้ ให้คนไข้และญาตินำติดตัวกลับบ้านได้ และสามารถเก็บสถิติข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้ผู้มาใช้บริการได้มากทีเดียว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจทำพวงกุญแจ หรือ ตลับใส่ยา ที่มีข้อความระบุชื่อคลินิก เวลาทำการ และเบอร์โทรศัพท์ของคลินิก เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไว้แจกคนไข้ ซึ่งคุณหมอควรเป็นคนมอบเอง พร้อมกับพูดว่า “สวัสดีปีใหม่ครับ” จะช่วยสร้างความประทับใจให้คนไข้ และไม่ทำให้ภาพลักษณ์คุณหมอเสียหาย




